วันอาทิตย์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

เวทีปราศัยปชป.ภูเก็ตคึก คนแน่นลานสะพานหิน “มาร์ค” อ้อนเลือกเป็นนายกไม่โกง-ไม่ป่วยตลอด 4 ปี

เวทีปราศรัยใหญ่พรรคประชาธิปัตย์ที่ภูเก็ตคึกคัก คนแห่ฟังแน่นเต็มลานสะพานหิน “อภิสิทธิ์” สร้างสีสันนั่งวินมอไซด์เข้างาน พร้อมประกาศสัญญาประชาชนวางใจให้บริหารประเทศต่อเดินหน้าทำงานเต็มร้อย ชูนโยบายแก้ปัญหาปากท้องสานต่อได้ทันที ยันทำงานไม่โกง ไม่ป่วย ตลอดทั้ง 4 ปี ยอมรับยังมีปัญหาที่แก้ไม่ตกทั้งของแพง ยาเสพติด และคอร์รัปชั่น เย้นเพื่อไทยหวังแค่ช่วย "ทักษิณ"กลับบ้านทั้งที่ก็กลับได้แต่ไม่กล้า

วันที่ 28 พ.ค.54 เมื่อช่วงค่ำวานนี้ ที่บริเวณปลายแหลมสะพานหิน อ.เมือง จ.ภูเก็ต พรรคประชาธิปัตย์เปิดเวทีปราศรัยใหญ่เวทีแรก พร้อมทั้งแนะนำผู้สมัครส.ส.ในภาคใต้ทั้งหมด ยกเว้น 3 จังหวัดภาคใต้ นำโดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยแกนนำคนสำคัญ เช่น นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ นายชินวรณ์ บุญญเกียรติ นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฐ์ นายวิทยา แก้วภาราดัย นายอาคม เอ่งฉ้วน ฯลฯ

โดยมีประชาชนชาวจังหวัดภูเก็ตและใกล้เคียงมาร่วมฟังการปราศรัยจำนวนมากจนเต็มลานปลายแหลมสะพานหิน ซึ่งการเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ในครั้งนี้เริ่มโดยนายชิณวรณ์ บุญเกียรติ ที่ได้กล่าวกับประชาชนที่มารับฟังการปราศรัยว่าพรรคประชาธิปัตย์จะเดินหน้าเรื่องของการศึกษาทั้งเรื่องของการเรียนฟรี และการส่งเสริมทางด้านการศึกษาทางด้านต่าง ๆ

หลังจากนั้นนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคได้ขึ้นเวทีปราศรัย โดยระบุว่าว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งครั้งสำคัญเป็นการชี้เป็นชี้เป็นชี้ตายว่าประเทศจะเดินทางไปได้หรือไม่ และไม่ใช่เป็นการเลือก ส.ส.ธรรมดา แต่เป็นการเลือกรัฐบาลชุดใหม่ซึ่งเป็นการเลือกว่าใครควรจะได้เป็นผู้นำประเทศระหว่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กับนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

นายสุเทพ กล่าวยืนยันว่า สำหรับนายอภิสิทธิ์นั้นเป็นผู้ที่เรียนหนังสือเก่งได้รับเกียรตินิยมอันดับหนึ่งของมหาวิทยาลัยระดับโลก และมีความสนใจทางการเมืองมาตั้งแต่อายุยังน้อย โดยในช่วงที่เข้ามาทำหน้าที่ในการทำการเมืองนั้นก็ทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดี แสดงความคิดเห็นที่เด็ดขาดชัดเจนและมีโดดเด่น โดยเฉพาะในช่วงที่เป็นรัฐบาล 2 ปี ก็สามารถนำพาประเทศผ่านวิกฤตเศรษฐกิจ ส่งผลให้ราคาสินค้าเกษตรมีราคาเพิ่มสูง เป็นที่พอใจของเกษตรโดยเฉพาะการประกันราคาสินค้าเกษตร ภาพรวมเศรษฐกิจดีขึ้นมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงถึง 7% มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งไม่ใช่ดีแต่พูดเหมือนกับที่ถูกกล่าวหา อย่างไรก็ตามมั่นใจนายอภิสิทธิ์จะชนะยิ่งลักษณ์แน่นอน ซึ่งคนใต้ต้องแสดงความเป็นเจ้าของประเทศด้วยการไปเลือกตั้ง

ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. นายอภิสิทธิ์ ได้เดินทางมาถึงเวทีปราศรัยด้วยรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างท่ามกลางประชาชนที่ให้การต้อนรับเป็นจำนวนมาก หลังจากนั้นได้แนะนำตัวผู้สมัครของพรรคในพื้นที่ภาคใต้ และกล่าวปราศรัยกับประชาชน ว่า ตนซาบซึ้งน้ำใจคนใต้ที่ให้การสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์มาโดยตลอด แม้ว่าช่วงก่อนหน้านั้นจะทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้าน และได้มาทำหน้าที่รัฐบาลในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งระยะเวลา 2 ปีที่ทำหน้าที่รัฐบาลก็ถูกขัดขวางทุกวิถีทาง แต่ก็พยายามทำงานจนประสบความสำเร็จและไม่คิดถอดใจ เพราะแนวทางการทำงานของพรรคประชาธิปัตย์ยันหยัดอาสาทำงานเพื่อประชาชน

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวปราศรัยอีกว่า พรรคประชาธิปัตย์ก้าวเข้ามาเป็นรัฐบาลในช่วงที่ประเทศกำลังประสบปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ ถูกสบประมาทว่าเด็กสองคนคือตนและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังไม่สามารถที่จะนำพาประเทศรอดพ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจได้ แต่ในที่สุดก็สามารถนำพาประเทศพ้นวิกฤตเศรษฐกิจได้ ปีที่แล้วเศรษฐกิจโตเกือบ 8% อัตราการว่างงานลดเหลือแค่ 2-3 แสนคนซึ่งถือว่าน้อยมาก พูดได้ว่าเศรษฐกิจของไทยปลอดภัยจากวิกฤตเศรษฐกิจแล้ว พร้อมกับเดินหน้านโยบายต่างๆ ที่ได้หาเสียงกับประชาชนไม่ว่าจะเป็นเบี้ยยังชีพ เรียนฟรี ประกันรายได้เกษตรกร ฯลฯ ซึ่งได้ทำมาตั้งแต่เป็นรัฐบาลคบ 99 วัน แต่ก็ต้องยอมรับว่ายังมีปัญหาที่ไม่สามารถแก้ได้ คือ ปัญหาปากท้องของประชาชนที่สินค้าคาราแพง ซึ่งรัฐบาลก็พยายามแก้ไขมาโดยตลอด พยายามควบคุมราคาสินค้าชนิดที่สามารถควบคุมได้ ตึงราคาน้ำมันดีเซลให้อยู่ที่ลิตรละ 30 บาท เพื่อไม่ให้ราคาสินค้าขยับตัวเพิ่มสูงขึ้น ดูแลราคาแก๊สหุ้งต้ม ราคาหมู ไก่ และไข่ไก่ที่ตอนนี้ราคาลดลงแล้วสองสลึง แต่วิธีที่แก้ปัญหาที่ดีที่สุดคือเพิ่มรายได้ลดรายจ่ายให้ประชาชน จึงได้เดินหน้าปรับค่าแรง เพิ่มเงินเดือนข้าราชการ ซึ่งได้ประกาศไปชัดเจนแล้วว่าจะเพิ่มค่าแรง 25% ภายใน 2 ปี รวมทั้งปัญหายาเสพติด และปัญหาคอร์ปรับชั่น

นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า พรรคประชาธิปัตย์จำเป็นที่ต้องบอกประชาชนให้ทราบว่าจะเดินหน้าแก้ปัญหาต่อไป แต่การแก้ปัญหาของพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคอื่นนั้นแตกต่างกัน ออกรณรงค์เลือกปชป.ทำทันทีตั้งแต่วันแรก และพร้อมที่จะต่อยอดนโยบายต่างที่เป็นประโยชน์กับประชาชน ไม่ว่าจะเป็นนโยบายเรียนฟรี 15 ปีอย่างมีคุณภาพ เพิ่มกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา ประกันรายได้เกษตกร และต้องเดินหน้าประเทศไทยต้องเติมทุกอย่างให้เต็มสิบ เวลานี้พรรคการเมืองเสนอนโยบายที่แตกต่างกัน แต่ปชป.จะไม่สนับสนุนที่เป็นการสร้างหนี้ให้กับประชาชน แก้จะใช้นโยบายเพิ่มรายได้แทนเป็นเรื่องสำคัญ แต่บางพรรคการเมืองกลับเห็นว่าการล้างความผิดให้กับคนที่ทำผิดเป็นเรื่องเร่งด่วน กรณีของพรรคเพื่อไทยที่เห็นว่าการนิรโทษกรรมเป็นเรื่องเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการเพื่อพาทักษิณกลับประเทศ ซึ่งไม่มีใครห้ามกลับ แต่เมื่อกลับมาต้องติดคุกก่อน

นายอภิสิทธิ์ กล่าวในตอนท้ายว่า พรรคปชป.เดินหน้าประเทศไทยด้วนนโยบายประชาชน แต่พรรคอื่นต้องการนำทักษิณกลับบ้าน ประชาชนต้องเลือกว่าจะเดินทางใด การเลือกตั้งครั้งนี้สำคัญมาก ปชป.ชัดเจน จิตใจเต็มร้อย ที่ทำงานให้บ้านเมืองและประชาชน ในรอบ 4 ปีนี้ ไม่เคยคิดโกง ไม่เคยขี้เกียจ ไม่ป่วย สำนึกในบุญคุณของประชาชน มุ่งมั่นที่จะทำงานต่อไป เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน

ข้อมูลจาก...ผู้จัดการ ออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็นทั่วไป ใช้คำสุภาพ