วันที่ 27 ต.ค.53 ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยนายนฤนาถ สุภัทรประทีป นายอำเภอถลาง นายสุชาติ อยู่เย็น รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ประชุมชี้แจงต่อคณะอนุกรรมาธิการกลั่นกรองเรื่องร้องเรียน ในคณะกรรมาธิการปกครอง วุฒิสภา นำโดยนายกฤช อาทิตย์แก้ว ประธานอนุกรรมาธิการฯ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหาการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างบนที่สาธารณะริมทะเล ต.เชิงทะเล อ.ถลาง
มีนายพิณสวัสดิ์ สุวรรณประกร ผู้เป็นเจ้าของโฉนดที่ดินเลขที่ 6823 เลขที่ 396 ต.เชิงทะเล อ.ถลาง มีทิศเหนือจดทะเล ทิศใต้จดทางสาธารณะ เป็นผู้ร้องเรียน เนื่องจากมีกลุ่มบุคคลได้ก่อสร้างรั้วคอนกรีตสูงประมาณ 2 เมตร บนที่ดินสาธารณประโยชน์ริมทะเลปิดบังทัศนียภาพ ปิดกั้นทางลม และลิดรอนสิทธิของผู้ร้องเรียนในการใช้ประโยชน์ในที่ดินสาธารณะ
นายตรีชี้แจงต่อที่ประชุมว่า จังหวัดได้แจ้งให้ทางอำเภอถลาง นายก อบต.เชิงทะเล และสำนักงานขนส่งทางน้ำที่ 5 สาขาภูเก็ต ตรวจสอบข้อเท็จจริง ปรากฏว่า ในส่วนของขนส่งทางน้ำที่ 5 สาขาภูเก็ต แจ้งว่า โฉนดที่ดินซึ่งระบุทิศเหนือจดทะเล สภาพปัจจุบันที่ดินแปลงดังกล่าวติดกับที่สาธารณประโยชน์ชายทะเล ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของอำเภอถลาง ดังนั้นการร้องเรียนจึงไม่อยู่ในอำนาจของขนส่งทางน้ำฯ
ขณะที่สำนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต ได้ตรวจสอบบริเวณที่ร้องเรียน พบว่าสภาพการครอบครองมีอยู่สองส่วน ส่วนที่ 1 อยู่ติดกับแนวเขตโฉนดที่ดินเลขที่ 6823 ด้านทิศเหนือประมาณ 13 เมตร นายพิณสวัสดิ์เป็นผู้ครอบครองโดยไม่มีหลักฐานแสดงสิทธิในที่ดิน โดยผู้ร้องได้นำชี้ในการรังวัดสอบเขตเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2552 แต่เจ้าหน้าที่แจ้งให้ทราบว่าเป็นที่ดินนอกหลักฐานโฉนดและผู้ร้องรับทราบแล้ว ส่วนที่ 2 อยู่ถัดจากส่วนที่หนึ่งทางทิศเหนือจนถึงริมตลิ่งประมาณ 39 เมตร มีแนวกำแพงคอนกรีต แต่ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าใครเป็นผู้ครอบครอง
ที่ดินทั้งสองส่วนเป็นที่หาดทรายชายทะเล มีการปลูกมะพร้าวไม่หนาแน่นเต็มตลอดพื้นที่ นอกจากกำแพงคอนกรีตสูงประมาณ 2 เมตรแล้ว ยังมีรั้วลวดหนามแนวกำแพงคอนกรีตกั้นดิน และมีการวางหินก้อนใหญ่ลักษณะคล้ายกับการป้องกันคลื่นซัด ไม่ทราบใครเป็นผู้สร้างเช่นกัน รวมทั้งยังได้มีหนังสือสั่งการไปยังอำเภอถลางและ อบต.เชิงทะเลให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและรายงานให้จังหวัดทราบตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2553 แต่ก็ยังไม่ได้รับรายงานแต่อย่างใด
ขณะที่ นายนฤนาถ สุภัทรประทีป นายอำเภอถลาง กล่าวว่า เดิมที่ดินที่มีการร้องเรียนไม่มีการปิดกั้นแต่อย่างใด ซึ่งหลังจากเกิดสึนามิเมื่อปี 2547 นายก อบต.เชิงทะเลสมัยนั้นให้มีการนำก้อนหินมาตั้งเรียงไว้เพื่อป้องกันคลื่น รวมระยะทางประมาณ 800 เมตร ส่วนของรั้วนั้นเกิดขึ้นภายหลังเมื่อประมาณปี 2548 และส่งผลให้มีการบดบังทัศนียภาพของผู้ร้องจริง หลังจากเกิดปัญหาร้องเรียนขึ้นทาง อบต.เชิงทะเลก็ได้มีประกาศให้ระงับการก่อสร้าง และให้รื้อถอนรั้วดังกล่าวตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร
รวมทั้งยังมีประกาศแจ้งให้ผู้ครอบครองมาขออนุญาตกับเจ้าพนักงานท้องถิ่น แต่ก็ไม่มีผู้ใดมาดำเนินการ ซึ่งขณะนี้เลยกำหนดระยะเวลาไปพอสมควรแล้ว แต่เนื่องจากที่ผ่านมายังมีปัญหาเรื่องของความชัดเจนเกี่ยวกับผู้ดูแลว่าเป็นของใครระหว่างขนส่งทางน้ำฯ กับทางท้องถิ่น ซึ่งเมื่อมีความชัดเจนแล้วก็จะได้ไปดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์และดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป
ด้านนายกฤช อาทิตย์แก้ว ประธานอนุกรรมาธิการฯ กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นไม่น่าจะยื้อเยื้อ เพราะจากการรับฟังรายงานจากผู้ที่เกี่ยวข้องพบว่าน่าจะเป็นการบุกรุกที่สาธารณะจริง แต่ทั้งนี้คงต้องมาดูว่าหน่วยงานใดเป็นผู้มีอำนาจในการร้องทุกข์กล่าวโทษ และจะได้นำข้อมูลข้อเท็จจริงรายงานในคณะกรรมาธิการฯ วุฒิสภา รับทราบต่อไป
ข้อมูล...ผู้จัดการ ออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็นทั่วไป ใช้คำสุภาพ