วันพฤหัสบดีที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2553

ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา ลงพื้นที่สอบป่าชุมชนโรงเลื่อยกระบี่


ประธานคณะกรรมาธิการ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ป่าชุมชนโรงเลื่อย ม.2ต.คลองท่อมใต้อ.คลองท่อม จ.กระบี่ หลังชาวบ้านร้องเรียนนายทุนบุกรุกออกเอกสารสิทธิทับที่ป่าชายเลน เตรียมผุดรีสอร์ต เนื้อที่เกือบ 200 ไร่

วันที่ 1 ก.ย.53 นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ประธานคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา พร้อมคณะได้ลงพื้นที่ชุมชนโรงเลื่อย ม.2 ต.คลองท่อมใต้ อ.คลองท่อม จ.กระบี่ หลัง นายทรงฤทธิ์ บำรุง ประธานกลุ่มอนุรักษ์ป่าริมเลบ้านเรา ได้ร้องเรียนไปยังคณะกรรมาธิการ ว่า มีการบุกรุกออกเอกสารสิทธิทับที่ป่าชายเลน เตรียมสร้างรีสอร์ต บนเนื้อที่เกือบ 200 ไร่

คณะกรรมการธิการได้มีการรับฟังข้อเท็จจริงจากหน่วยงานในพื้นที่ ประกอบด้วย สำนักอนุรักษ์อนุรักทรัพยากรป่าชายเลน ส่วนบริหารจัดการทรัพยากรป่าชายเลนที่ 2 สาขากระบี่ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.กระบี่ สถานีทรัพยากรป่าชายเลนที่ 24 รวมทั้งที่ดินจังหวัดและอำเภอ ชาวบ้านในพื้นที่และผู้ที่อ้างสิทธิ์ครอบครองที่ดินดังกล่าว เป็นเวลานานกว่า 1 ชั่วโมง

จากนั้น คณะกรรมาธิการได้ลงตรวจสอบสภาพพื้นที่ป่าชายเลนด้านหลังชุมชน พบร่องรอยนำรถแบ็กโฮล้มป่าโกงกางเนื้อที่ประมาณ 4-5ไร่ แต่ขณะที่มีการตรวจสอบพื้นที่นั้น ได้มี นายจิตกร สนธิพิพัฒน์ อายุ44ปี อยู่บ้านเลขที่ 1 ม.2 ต.คลองท่อมใต้ อ้างว่า เป็นที่ดินเอกสารสิทธิถูกต้อง พร้อมนำเอกสารสิทธิ ส.ค.1 มาแสดง

นอกจากนั้น คณะกรรมาธิการก็ได้เข้าตรวจสอบบริเวณพื้นที่ป่าชายเลนอยู่ติดกับพื้นที่ที่มีการเอกสารสิทธิ นส.3 ก.เนื้อที่ 8 ไร่ 3 งาน 50 ตารางวา ของ นายเชื้อ จุลลางกูร อายุ 80ปี พบเป็นพื้นที่มีระดับน้ำทะเลท่วมถึง แต่มี นายนพรัตน์ เจริญสุข ลูกเขยนายเชื้อ อ้างว่า เดิมพื้นที่มีสภาพเป็นป่าจาก ปลูกมานานหลายปี เช่นเดียวกับนายวรพงศ์ มุกดามนตรี กำนันตำบลคลองท่อมใต้ ระบุว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นของนายเชื้อ และก่อนหน้านี้ระดับน้ำยังไม่ท่วมถึง แต่ปัจจุบันระดับน้ำทะเลท่วมถึง

ด้าน นายสุรชัย ประธานคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา กล่าวว่า ในการลงพื้นที่ครั้งนี้ เนื่องจากชาวบ้านในพื้นที่ได้มีการร้องเรียนมาให้ตรวจสอบการบุกรุกออกเอกสารสิทธ์บริเวณป่าชายเลนชุมชนโรงเลื่อย แต่ในขณะนี้ยังไม่สามารถวินิจฉัยได้ว่า เป็นการบุกรุกจริงหรือไม่ เนื่องจากผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าบุกรุก มีเอกสารสิทธิ 3 ฉบับ คือ นส.3 ก. และอีก 2 ฉบับ เป็น ส.ค.1 แต่ก็ยังมีข้อโต้แย้งกันอยู่ ว่ามีการใช้สิทธิ์เกินเลยขอบเขตตามที่ระบุไว้ในเอกสารสิทธิหรือไม่ มีการบุกรุกป่าชายเลนหรือไม่

จากการสำรวจดูสภาพพื้นที่จริงแล้ว ดูด้วยตาก็พบว่าระดับน้ำทะเลท่วมถึงจริงๆ ซึ่งจะได้พิจารณาต่อไป รวมทั้งเรื่องของเอกสารสิทธิว่าถูกต้องหรือไม่ หากสอบพบว่าออกมาโดยมิชอบ และมีการทำประโยชน์ไม่ต่อเนื่องก็จะต้องมีการเสนอเพิกถอนสิทธิ์ต่อไป

ข้อมูล...ผู้จัดการ ออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็นทั่วไป ใช้คำสุภาพ