จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 4 ก.ย.53 เวลาประมาณ 10.00 น. ทางศูนย์ข่าวทัพเรือภาคที่ 3 ได้รับแจ้งว่ามีเรือประมงดัดแปลงบรรทุกน้ำมัน ชื่อเรือโชคถาวร 6 มีลูกเรือ 4 คน พร้อมบรรทุกน้ำมันในเรือ 35,000 ลิตร เกิดอับปาง เนื่องจากคลื่นลมแรงในทะเล และจมที่ แลต.7 องศา 40.8 ลิปดา น.ลอง.98 องศา 24.9 ลิปดา อ. ความลึก 43 ม. ห่างจากเกาะราชาใหญ่ 4 ไมล์ทะเล ห่างจากอ่าวฉลอง 10ไมล์ทะเล นั้น
ทัพเรือภาคที่ 3 โดย พล.ร.ท.ชุมนุม อาจวงษ์ ผบ.ทรภ.3 ได้มอบให้ พล.ร.ต.นาวิน ธนเนตร เสธ.ทรภ.3 ได้สั่งการให้ทางศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล เขต 3 (ศรชล.เขต 3) เข้าทำการช่วยเหลือ โดยทัพเรือภาคที่ 3 ได้จัด เรือตรวจการณ์ ต.218 , ทางตำรวจน้ำส่งเรือคุณพุ่ม(814) เข้าทำการช่วยเหลือเรือบรรทุกน้ำมันโชคถาวร 6 ทำให้ลูกเรือ จำนวน 4 คน ปลอดภัย ส่วนเรือบรรทุกน้ำมัน โชคถาวร 6 ที่ประสบเหตุ จมลงในที่สุด พร้อมน้ำมันในเรือ จำนวน 35,000 ลิตร
จากการสอบสวนทราบว่า เรือโชคถาวร 6 กำลังเดินทางออกจากภูเก็ต ไปยังเกาะราชาใหญ่ เพื่อส่งน้ำมัน เมื่อเกิดคลื่นลมในทะเลค่อนข้างแรง ทำให้น้ำเข้าเรือ เรือแตก และ อับปางจมลงทะเลอันดามัน ในที่สุด
ทัพเรือภาคที่ 3 ได้สั่งการให้จัด ฮ.ลล.4 (S– 76 B) โดยมี น.ต.พิเชษฐ กระจ่างโพธิ์ นักบินที่ 1 และ ร.ท.ชาตบดี ทองอาภรณ์ นักบินที่ 2 ทำการบินตรวจสอบพบคราบน้ำมันดีเซลสีเงินจางขนาดโดยเฉลี่ยกว้าง 0.5 ไมล์ ยาว 3 ไมล์ ทางกองอำนวยการร่วมได้พิจารณาร่วมกัน โดยปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ พบว่าคราบน้ำมันเชื้อเพลิงที่เกิดขึ้น จำนวนไม่มากอาจจะเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงที่ค้างท่อประมาณ 300 – 400 ลิตร
ต่อมาเมื่อ เวลา 06.20 น. ของวันที่ 5 ก.ย. 53 ทางทัพเรือภาคที่ 3 ได้จัด ฮ.ลล.4 (S– 76 B) ขึ้นทำการสำรวจ พบคราบน้ำมันเชื้อเพลิงเพียงเล็กน้อย ซึ่งแสดงว่าน้ำมันเชื้อเพลิงที่รั่วไหลนั้นไม่มีการรั่วไหลเพิ่มขึ้น และเนื่องจากคลื่นลมเริ่มสงบทางกองอำนวยการร่วมได้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เห็นควรดำเนินการกู้เรือโดยทาง กรมเจ้าท่าจะเป็นหน่วยดำเนินการร่วมกับเจ้าของเรือ และพร้อมกั้นนี้ ทรภ.3 ได้จัด ร.ล.รัง เป็นเรือฉีดสารเคมีขจัดคราบน้ำมัน ก่อนดำเนินการกู้เรือน้ำมันโชคถาวร 6 และ บูมสำหรับกักล้อมน้ำมันเชื้อเพลิงขึ้นไปบนเรือ พร้อมจัดอากาศยานเข้าร่วมปฏิบัติการในกรณีฉุกเฉิน
พล.ร.ต.นาวิน ธนเนตร เสธ.ทรภ.3 กล่าวว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวทาง ทรภ.3, และ ศรชล.เขต 3 ขอสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในพื้นที่ว่า สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ซึ่งหน้าที่ของ ศรชล.เขต 3 นั้น ทำหน้าที่เป็นศูนย์ประสานการปฏิบัติเกี่ยวกับการก่อการร้ายทางทะเลทุก ๆ ด้านในพื้นที่ฝั่งอันดามัน เพื่อให้การรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลอันเป็นอันหนึ่งอันเดียว และการอนุรักษ์และฟื้นฟูสภาพแวดล้อมทางทะเล ได้แก่การอนุรักษ์และฟื้นฟูสภาพแวดล้อม การป้องกันและขจัดคราบน้ำมัน และมลพิษต่าง ๆ ในทะเล
ข้อมูลจาก...ส.ปชส.ภูเก็ต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็นทั่วไป ใช้คำสุภาพ