ตัวแทนชาวบ้านที่ถูกเวนคืนที่ดิน ต.ละงู ต.ปากน้ำ อ.ละงู จ.สตูล 15 ราย เดินทางเข้าพบผู้ว่าราชการ จ.สตูล เพื่อหารือกรณีที่ดินพวกตนถูกเวนคืนกว่า 200 เมตร 47 ไร่ สร้างความเสียหายให้กับชาวบ้านทั้งสิ้นจำนวน 82 ราย หลังได้รับราคาไม่เป็นธรรมจากโครงการก่อสร้างถนนสนับสนุนยุทธศาสตร์ สายเข้าท่าเทียบเรือน้ำลึกปากบารา จ.สตูล (ตอนที่ 2)
นายอาบาส เกศา อายุ 33 ปีบ้านเลขที่ 110 ม.4 ต.ละงู อ.ละงู และ นายอบีดีน นิลสกุล อายุ 60 ปีบ้านเลขทึ่ 67 ม.6 ต.ละงู อ.ละงู ตัวแทนชาวบ้านพร้อมชาวบ้าน 15 คน เข้าพบ นายสุเมธ ชัยเลิศวณิชกุล ผวจ.สตูล และ นายชูศักดิ์ มณีชยางกูร รอง ผวจ.สตูล เพื่อหารือและขอความเป็นธรรม หลังพวกตนต้องประสบกับปัญหาการเวนคืนที่ดิน ที่ได้ราคาไม่เป็นธรรมไปตามราคากลางตลาดธนาคาร
ทั้งนี้ มีบางรายได้ราคาเวนคืนเพียงตารางเมตรละ 125 บาท จำนวน 41 ราย ทั้งที่ทำเลดินดังกล่าวเป็นดินติดถนน สี่เลน และบางรายได้ค่าคืนผลอาสินจากต้นยางพารา และต้นปาล์ม เพียงต้นละ 500-1,500 บาท ทั้งที่สวนดังกล่าวพร้อมจะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ตลอด 15-20 ปี
ในเรื่องนี้ นายสุเมธ ชัยเลิศวณิชกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล บอกกับชาวบ้านว่า หากไม่พอใจในราคาก็สามารถยื่นอุทธรณ์ได้ ซึ่งพบว่าราคาเวนคืนที่ดินที่ชาวบ้านพึงพอใจจาก 82 ราย มีเพียง 20 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือไม่พอใจในราคาเพราะราคาเห็นว่าต่ำกว่าราคากลางธนาคารเกินไป ทั้งต้นไม้อาสิน และที่ดิน
ส่วนเรื่องการก่อสร้างท่าเทียบเรือน้ำลึกปากบารา จากการเวนคืนดินเป็นการเข้าใจผิด เพราะขณะนี้รัฐบาลได้ทุ่มงบ 100 ล้านบาทให้ สนข.ศึกษาท่าเทียบเรือทวาย ประเทศพม่า อยู่ในขณะนี้ และคาดว่า ภายใน 6 เดือนก็จะทราบผลว่าจะมีการก่อสร้างท่าเทียบเรือน้ำลึกที่ใด ซึ่งอย่างไรในพื้นที่สตูลก็คงต้องมีการสร้างท่าเรือ แต่จะเป็นขนาดเท่าไหร่ต้องดูต่อไป
อย่างไรก็ตาม จะก็ต้องมีการทำประชาพิจารณ์ และดูในส่วนของสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกันด้วย เพราะท่าลงทุนที่ท่าเรือทวาย หากประเทศพม่า มีการปิดก็อาจทำให้การขนส่งเสียหายได้ซึ่งยังคงไว้ซึ่งท่าเรือน้ำลึกปากบาราสตูล
ขอบคุณ...ผู้จัดการ ออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็นทั่วไป ใช้คำสุภาพ