วันศุกร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

สาววัย42แม่ค้าก๋วยเตี๋ยวหอบลูกชายวัย 15 นักเรียนชั้นม.5 ภูเก็ต ร้องสื่อมวลชนและศูนย์ดำรงธรรม ถูกตำรวจยศ จสต.สภ.ทุ่งทอง กร่าง


วันที่ 8 ก.ค.2553 นางอัญชฎา ทับไกร แม่ค้าก๋วยเตี๋ยว อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14/2 หมู่ 4 ถนนบ้านระเง็ง ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ได้เข้าร้องเรียนต่อนายพีระพงษ์ ผลประมูล ประธานชมรมผู้สื่อข่าวภูเก็ต ณ ที่ทำการชมรมผู้สื่อข่าวภูเก็ต พร้อมนำบุตรชาย อรรถพร ทับไกร หรือ น้องบอส ทับไกร อายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนเทศบาลบ้านสามกอง จ.ภูเก็ต โดยกล่าหาว่าบุตรชายหรือ น้องบอส ถูก จสต.ศุภโชค ผบ.หมู่งานป้องกัน สภ.ทุ่งทอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ทำร้ายร่างกายท่ามกลางสายตานักเรียนและผู้ปกครองที่บริเวณหน้าโรงเรียนเทศบาลบ้านสามกอง โดยการบีบคอ และชกหัวจนได้รับบาดเจ็บต้องนำส่งโรงพยาบาลเหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 17.00 น.วันที่ 4 ก.ค.2553

น้องบอส เหยื่อเคราะห์ร้ายรายนี้เล่าเหตุการณ์วันเกิดเหตุว่า ช่วงเย็นหลังเลิกเรียนของวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ตนเองรอบิดาตนเองมารับอยู่ที่บริเวณหน้าโรงเรียนและเดินกินลูกชิ้นอยู่นั้น ได้มีนักเรียนชายโรงเรียนเดียวกันเดินมาชนและเป็นเหตุให้ไม้เสียบลูกชิ้นที่ตนกำลังกินอยู่ทิ่มปากตนเอง ตนจึงได้ใช้มือตีไป1ครั้ง และทราบต่อมาว่านักเรียนคู่กรณีที่มีเรื่องกับตนได้ไปฟ้องบิดา ซึ่งทราบชื่อภายหลังว่าชื่อ จสต.ศุภโชค แสงศรี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทุ่งทอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต (ผบ.หมู่งานป้องกัน) ปรากฏว่า จสต.ศุภโชคได้ขับรถผ่านมาแล้วพูดจาขึงขังว่า “มึงตีลูกกูทำไม” ซึ่งตนก็ได้อธิบายข้อเท็จจริงไปว่าตนเองไม่ได้เป็นคนก่อเรื่องก่อนแต่ทาง จสต.ศุภโชค ไม่ฟัง กลับพูดว่า “มึงระวังตัวให้ดีแล้วกัน”

หลังเกิดเหตุครู่ใหญ่ปรากฏว่า จสต.ศุภโชค ได้ขับรถย้อนมามาตนเองแล้วลงจากรถเมื่อลงมาก็ได้ปรี่เข้าหาแล้วใช้สองมือบีบคอและชกหัวตนเอง4-5 ครั้งซ้อนๆ ต่อหน้าเพื่อนๆนักเรียนและผู้ปกครองนักเรียนที่มารอรับนักเรียนหลังเลิกเรียน ซึ่งหลังเกิดเหตุบิดาของตนได้พาตนเข้าไปแจ้งความร้องทุกข์ ที่ สภ.เมืองภูเก็ต ขอให้ดำเนินคดีกับ จสต.ศุภโชค

นางอัญชฎา ทับไกร มารดาของน้องบอส เล่าว่าหลังเกิดเรื่องแล้วตนได้ปรึกษากับทนายเพื่อจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ไม่ใช่ว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วจะเที่ยวข่มเหงชาวบ้านเขาแบบนี้ หากเข้ามาตีลูกตนตนจะไม่ว่าเพราะถือว่าเป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่สั่งสอนเด็กแต่นี้เขากลับบีบคอแล้วชกหัวโดยไม่แคร์สายตาใครๆแบบนี้ หากลูกตนสมองได้รับการกระทบกระเทือนใครจะรับผิดชอบ ครูที่โรงเรียนยังบอกว่าทำแบบนี้ใช้ไม่ได้ เป็นถึงเจ้าหน้าทีตำรวจและเป็นผู้ใหญ่แล้วน่าจะนำเรื่องมาฟ้องครูที่โรงเรียนเพื่อสืบสวนหาข้อเท็จจริงดีกว่าทำกันแบบนี้ ส่วนทนายที่ตนไปปรึกษาเพื่อจะให้ฟ้องร้องตำรวจคนที่ชกหัวลูกตนกลับแนะนำและบอกว่าเรื่องนี้น่าจะพูดคุยไกล่เกลี่ยยุติเรื่องกันดีกว่า โดยตนมาทราบภายหลังว่าทนายความที่ตนไปหานั้นรู้จักกับทาง ผกก.สภ.ทุ่งทอง ผู้บังคับบัญชาของ จสต.ศุภโชค ที่ชกหัวและบีบคอลูกชายตน และทราบมาอีกว่า จสต.ศุภโชค ยังทำหน้าที่ขับรถให้นายตำรวจใหญ่ของ สภ.ทุ่งทอง และมีพรรคพวกมากจึงทำให้ทนายความที่ตนไปหาแนะนำว่าอย่าไปเอาเรื่องเขาดีกว่า ตนเป็นว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เมื่อเกิดเรื่องขึ้นมาแล้ว คนที่ทำผิดต้องถูกลงโทษจึงจะถูกต้อง โดยเฉพาะหากคนที่กระทำผิดเป็นถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ที่มีหน้าที่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข ประชาชนกลับมาทำร้ายและรังแกประชาชนเสียเองต้องนำตัวมาลงโทษเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อสังคม

ตนเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมเพราะทราบว่าคู่กรณีเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนตนและบุตรชายเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดา จะเอาอะไรไปสู้รบตบมือกับเขา จึงหวังพึ่งสื่อมวลชนช่วยตีแผ่เรื่องราวที่เกิดขึ้น พร้อมได้เข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อทาง นายวิชัย ไพรสงบ ผวจ.ภูเก็ต ผ่านทางศูนย์ดำรงธรรม เพื่อขอความเป็นธรรมและให้ดำเนินการเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด นางอัษชฎา กล่าวในที่สุด

ด้าน พ.ต.อ.วันไชย เอกพรพิชญ์ ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต ซึ่งบิดาของนายอรรถพร ได้นำน้องบอสเข้าแจ้งความ เผยหลังจากทราบเรื่องว่ามารดาของน้องบอสได้เข้าร้องเรียนต่อประธานชมรมผู้สื่อข่าวภูเก็ตและร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรม ว่า เรื่องนี้ตนยืนยันว่าจะไห้ความเป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่าย ไม่ต้องกลัวว่าตนจะเข้าข้างตำรวจด้วยกัน ใครผิดใครถูกก็ต้องว่าไปตามข้อเท็จจริง ถือเป็นเรื่องที่น่าเห็นใจที่มารดาของเด็กเมื่อทราบว่าคูกรณีเป็นตำรวจก็เกรงว่าตำรวจจะเข้าข้างตำรวจด้วยกัน ตนพร้อมจะให้ความเป็นธรรมอย่างเต็มที่ขอให้มารดาของเด็กมาพบตนเองได้โดยตรงหากพบว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการดำเนินการของตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต

สารภี ศรีธรรมรัตน์ / สนับสนุนข่าว / เสงี่ยม เอียดตน ส.ปชส.ภูเก็ต เรียบเรียง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็นทั่วไป ใช้คำสุภาพ