วันพฤหัสบดีที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ระทึกมือมืดลอบวางระเบิด M-67 หน้าศูนย์ข่าว “ASTV ผู้จัดการภูเก็ต”



ระทึกมือมืดลอบวางระเบิด M-67 หน้าศูนย์ข่าว “ASTV ผู้จัดการภูเก็ต” ตรวจสอบสภาพระเบิดไม่พร้อมทำงาน เชื่อหวังข่มขู่ ชมรมผู้สื่อข่าวจังหวัดภูเก็ตประนามการกระทำ



เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (12 พ.ค.53) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งว่ามีถุงกระดาษใส่กล่องวัตถุต้องสงสัยแขวนไว้ที่บริเวณประตูเหล็กหน้าบ้านเลขที่ 28 หมู่บ้านนิมิต ซอย 1 ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นที่ทำการศูนย์ข่าว ASTVผู้จัดการภูเก็ต ภายหลังรับแจ้ง ร.ต.ท.สายันต์ รอดเกลี้ยง ร้อยเวร สภ.เมืองภูเก็ต พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด พร้อมด้วยชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต เข้าตรวจสอบ โดยใช้เครื่องมือตรวจวัตถุระเบิดเข้าตรวจสอบ หลังจากได้นำถุงกระดาษที่แขวนอยู่ที่ประตูลงมาตรวจสอบพบภายในมีระเบิด M-67 จำนวน 1 ลูก หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำไปตรวจสอบยังหน่วยงานต่อไป

จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ พบว่า ระเบิดดังกล่าวยังไม่พร้อมทำงานเนื่องจากยังไม่ได้ถอดสลัก น่าจะเป็นการวางระเบิดเพื่อหวังข่มขู่เพื่อเตือนให้รู้ว่าจะมีการดำเนินการจริง อย่างไรก็ตาม หลังจากนายศุภชัย โพชนุกูล นายอำเภอเมืองภูเก็ต เข้ามาสอบถามข้อเท็จจริง และได้ฝากให้ช่วยกันเฝ้าระมัดระวัง รวมทั้งแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดภูเก็ต ก็ได้เดินทางสอบถามเหตุและให้กำลังใจ ขณะที่ นายประเสริฐ เฟื่องฟู หัวหน้าศูนย์ข่าวฯ ได้เดินทางไปให้ปากคำเพิ่มเติมต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต โดยนายประเสริฐกล่าวว่า เหตุการณ์ครั้งนี้น่าจะเป็นการข่มขู่ เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหากับใครทั้งทางด้านส่วนตัวและการทำงาน เพราะการเคลื่อนไหวทางด้านการเมืองในภูเก็ตไม่รุนแรง

ในส่วนของนายพีระพงษ์ ผลประมูล ประธานชมรมผู้สื่อข่าวจังหวัดภูเก็ตพร้อมด้วยสมาชิกชมรมผู้สื่อข่าวจังหวัดภูเก็ต ได้ยื่นหนังสือ กับนายสมิทธิ์ ปาลวัฒน์วิไชย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต รักษาการผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เพื่อเรียกร้องไปยังเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง โดยในระยะนี้ต้องการให้มีการคุ้มครองความปลอดภัยผู้สื่อข่าว และสำนักงานศูนย์ข่าว ASTV ผู้จัดการายวัน รวมถึงผู้สื่อข่าวอื่น ๆ อีกทั้งขอให้เจ้าหน้าที่เร่งรัดสรุปมูลเหตุของคดีให้เสร็จสิ้นภายใน 7 วัน และก่อนที่จะสรุปคดีอย่างชัดเจน ทางเจ้าหน้าที่รัฐไม่ควรแสดงความคิดเห็นใด ๆ ผ่านทางสื่อมวลชน เนื่องจากอาจจะสร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของจังหวัดภูเก็ตมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ทางชมรมผู้สื่อข่าวได้ประนามการกระทำครั้งนี้ว่า เป็นการกระทำที่ไม่ประสงค์ดีต่อบ้านเมือง ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินการของคนกลุ่มใดก็ตาม และขอเรียกร้องให้หยุดพฤติกรรมที่อาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของจังหวัดภูเก็ต

สำหรับมาตรการที่ชมรมผู้สื่อข่าวฯ ได้ยื่นเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยใน 3 ส่วนประกอบด้วย ด้านตำรวจภูธรจังหวัดให้เร่งรัดการสืบสวนติดตามหาผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกฎหมายโดยเร็ว เพิ่มมาตรการเฝ้าระวัง ดูแลรักษาความปลอดภัยสถานที่สำคัญ แหล่งท่องเที่ยว ที่ทำการสื่อมวลชน พื้นที่เป้าหมายอย่างใกล้ชิดและเข้มงวดกวดขันเพิ่มจุดตรวจค้นเป็นกรณีพิเศษ ด้านปลัดจังหวัด นายอำเภอ และตำรวจสันติบาลจังหวัด ขอให้ดูแลความสงบเรียบร้อยภายในพื้นที่ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ติดตามสถานการณ์ ความเคลื่อนไหวอันจะก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และในส่วนของทัพเรือภาคที่ 3 ขอความร่วมมือให้ติดตามสืบสวนหาข่าวในพื้นที่ หากมีการข่าวใดที่กระทบต่อความมั่นคงขอให้แจ้งเตือนเพื่อจังหวัดภูเก็ตจะได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป.

ข้อมูลจาก :: เสงี่ยม เอียดตน ส.ปชส.ภูเก็ต

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็นทั่วไป ใช้คำสุภาพ