นางสาวอัฐฌิมา หรือหวาน อ่อนแก้ว และ นายอานนท์ ภวลักษณาวัติ
------------------------------------
-------------------------------
ในเวลาต่อมาพ.ต.อ.อารยะพันธ์ พุกบัวขาว ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรกะทู้พร้อมด้วย พ.ต.ท.กิตติพงษ์ คล้ายแก้ว รองผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน พ.ต.ท.สกล บัณฑิตศักดิ์ สารวัตรสืบสวนสอบ สวน ร.ต.ท.รัฐเขต มั่นเมือง รองสารวัตรสืบสวนสอบสวนและอาสาสมัครมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต รุดไปยังที่เกิดเหตุและเจ้าหน้าที่พบศพผู้หญิงและ ผู้ชายที่ทราบข้อมูลในเวลาต่อมาคือ นางสาวอัฐฌิมา หรือหวาน อ่อนแก้ว อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่30/4 หมู่ที่4แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานครและนายอานนท์ ภวลักษณาวัติ อายุ29ปีอยู่บ้านเลขที่82/464 หมู่ที่3แขวงมีนบุรีเขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร และทั้ง 2 ศพอยู่ในสภาพนอนหงาย เสื้อผ้า ฉีกขาดมีสภาพเละ บริเวณคอ ขา เอวหัก รวมทั้งกะโหลกแตกและสมองกระจายนองพื้น
สำหรับนางสาวอัฐฌิมา หรือหวาน อ่อนแก้วสวมเสื้อ 2 ชั้นคือแขนยาวสีชมพูและแจ็กเก็ต นุ่งกางเกงขาสั้นสีดำ ส่วนนายอานนท์ ภวลักษณาวัติ นุ่งกางเกงขายาว สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวลายทางยาว สีขาว-ดำ ตรวจสอบภายในตัวทั้งคู่ไม่พบเอกสารใดๆทั้งสิ้นและเมื่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรกะทู้และแพทย์เวรโรงพยาบาลป่าตองร่วมชันสูตรพลิกศพเสร็จแล้วและระบุว่าเบื้องต้นผู้หญิง บริเวณขาซ้ายบริเวณน่องจนถึงเอวและหลัง รวมทั้งศีรษะด้านหลังกระแทกกับพื้นอย่างแรง เป็นเหตุทำให้เสียชีวิต ส่วนผู้ชาย กะโหลกศีรษะด้านหลังกระแทกกับพื้นอย่างแรง ทำให้เสียชีวิตเช่นเดียวกันและเจ้าหน้าที่นำศพไปเก็บไว้ที่ห้องเก็บศพของโรงพยาบาล เพื่อรอญาติมารับศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป
ทั้งนี้พ.ต.ท.จงเสริม ปรีชา สารวัตรเวรสถานีตำรวจภูธรกะทู้สอบปากคำพนักงานควบคุมกล้องโทรทัศน์วงจรปิดของป่าตองทาวเวอร์ คอนโดมีเนียมทราบรายละเอียดว่าหนุ่มสาว 2 คน เข้าพักที่ห้อง1702ชั้น17ซึ่งเป็นห้องชุดแบบสตูดิโอ หรือ มี 1 ห้องนอน 1ห้องรับแขก 1ห้องน้ำและยังมีระเบียงที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพของอ่าวป่าตองและบริเวณใกล้เคียงได้อย่างชัดเจน ตามปกติแล้วห้องชุดนี้ มีชาวต่างประเทศ เป็นเจ้าของ และจะใช้บริการ บริษัทนำเที่ยวแห่งหนึ่งของหาดป่าตอง เพื่อขายบริการห้องเช่าให้กับนักท่องเที่ยวทั่วไป ในสนนราคา คืนละ 3,000-4,000 บาท โดยพบว่าไฟในห้องและบริเวณระเบียง เปิดอยู่
เมื่อพนักงานสอบสวนตรวจสอบภายในห้องพบว่าภายในห้องรับแขกเปิดเครื่องปรับ อากาศอุณหภูมิเย็นจัดพร้อมกับเปิดเครื่องรับโทรทัศน์ที่ช่องเคเบิ้ลทีวีผ่านดาวเทียมที่ฉายภาพยนตร์การ์ตูน ส่วนบนโต๊ะมีขวดสุรายี่ห้อจอนห์นี่ วอล์กเกอร์ เรด 1 ขวด ที่มีสภาพดื่มไปแล้วประมาณครึ่งขวดวางอยู่ เคียงข้างอาหารหลายอย่างที่วางอยู่เต็มโต๊ะ ที่มีร่องรอยการรับประทานและตรวจสอบพบว่าบานกระจกเลื่อนที่เชื่อมระหว่างห้องรับแขกกับระเบียง อยู่ในสภาพเปิดออก มีโต๊ะรับแขกวางอยู่ริมระเบียง รวมทั้งมีตู้ไม้ขนาดกลางวางซ้อนบนโต๊ะอีก 1 ใบและที่ข้างโต๊ะมีเก้าอี้หวายวางอยู่อีก 2 ตัวด้วย และพนักงานสอบสวนสันนิษฐานว่านางสาวอัฐฌิมา หรือหวาน อ่อนแก้วและนายอานนท์ ภวลักษณาวัติ อาศัยเป็นอุปกรณ์สำคัญ ในการยืนให้พ้นขอบระเบียง และกระโดดลงไปพร้อมกัน เพราะพบหลักฐานเป็นรอยเท้า 2 คู่ ปรากฏที่ตู้ไม้ที่มีฝุ่นจับ สำหรับ จดหมาย 4 ฉบับที่เขียนจ่าหน้าถึงนายมณเฑียน อ่อนแก้ว บิดา , และ นางจุริยา อ่อนแก้ว มารดา,นางมนทิก อ่อนแก้ว พี่สาว นางแฉล้ม ศึกษายุทธ์ ยาย ,เป็นลายมือของฝ่ายหญิงส่วนจดหมายฉบับที่ 5 เป็นลายมือของนายอานนท์ ภวลักษณาวัติ
สำหรับบนเครื่องเล่นดีวีดี มีแว่นตาแฟชั่นชายหญิงและโทรศัพท์มือถือ4 เครื่องวางอยู่พร้อมกับกระเป๋าเงินของนายอานนท์ ภวลักษณาวัติ โดยภายในกระเป๋ามีบัตรประจำตัวประชาชนระบุชื่อ นายอานนท์ ภวลักษณาวัติ ส่วนบนเตียงนอนมีผ้าปูที่นอนและหมอนข้างวางกองรวมกันอยู่ นอกจากนี้พบมีกระเป๋าบรรจุเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวของผู้ตาย จำนวนมากถึง4-5ใบวางไว้อยู่ที่ปลายเตียง นอกจากนี้ บุคคลทั้ง 2ได้จัดสิ่งของต่างๆเอาไว้เป็นคู่เช่น รองเท้า2 คู่ ตั้งเคียงกันเรียบร้อย และจากภาพที่บันทึกจากระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิดนั้น สภาพร่างของหนุ่มสาวคู่นี้ตกถึงพื้นเมื่อเวลา 05.24 น.
ทางด้านพ.ต.ท.กิตติพงศ์ คล้ายแก้ว รองผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรกะทู้ จ.ภูเก็ตกล่าวว่าหลังจากเจ้าหน้าที่วิทยาการตำรวจภูธร เขต 44 จังหวัดภูเก็ต ตรวจสอบและพิสูจน์หลักฐานภายในห้องพัก และเอกสาร ของ ผู้ตายทั้ง 2 ทราบข้อมูลเบื้องต้นว่า ได้ท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต หลายแห่ง จากภาพ ถ่ายที่อยู่ในอัลบั้ม เป็นจำนวนมากจัดวางเอาไว้บนโต๊ะ โดยเช่าห้องพักมาตั้งแต่เมื่อวันที่วันที่ 5 มีนาคมนี้และล่าสุดสารวัตรเวรได้ติดต่อญาติที่กรุงเทพมหานคร ของทั้ง2 ครอบครัวให้มารับศพแล้ว เบื้องต้น พนักงานสอบสวนสันนิษฐานว่า โศกนาฏกรรมรายนี้ น่าจะเกิดจากปัญหาเกี่ยวกับความรักของคนทั้งคู่แต่ ญาติผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย ไม่เห็นด้วย จึงตัดสินใจนัดหมาย มาท่องเที่ยวที่จังหวัดภูเก็ตและจังหวัดใกล้เคียง และเลือกกระโดดอาคารสูงที่หาดป่าตอง อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต เพื่อปิดฉากความรักที่ไม่สมหวัง
----------------------------------------------------------------
ความคืบหน้าเกี่ยวกับโศกนาฏกรรม ระหว่างนางสาวอัฐฌิมา หรือหวาน อ่อนแก้ว และนายอานนท์ ภวลักษณาวัติ ชาวกรุงเทพมหานคร ที่กระโดดลงมาจากระเบียงห้องพักเลขที่1702ชั้น17ของป่าตองทาวเวอร์ คอนโดมีเนียม ตำบลป่าตอง อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ตและเสียชีวิต ที่บริเวณลานจอดรถข้างคอนโดมีเนียม ตั้งแต่เวลาประมาณ 05.30น.วันที่ 7 มีนาคมนี้ และบรรดาพ่อแม่ และญาติพี่น้องของผู้ตายบางส่วนเมื่อทราบเหตุการณ์ได้โดยสารเครื่องบินมายังจังหวัดภูเก็ตทันทีและล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 24.00น.นางมนทิก อ่อนแก้ว พี่สาวและญาติผู้ชายของนางสาวอัฐฌิมา หรือหวาน อ่อนแก้วได้มาติดต่อแพทย์เวรที่ห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลป่าตอง พร้อมกับยื่นเอกสารต่างๆรวมทั้งใบมรณบัตรเพื่อขอรับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลที่กรุงเทพมหานคร โดยมีการว่าจ้างรถตู้โดยสารที่หาดป่าตองลำเลียงศพไปส่งให้ ในขณะที่ บิดาของนายอานนท์ ภวลักษณาวัตินั้น ได้มาติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อขอรับศพบุตรชาย กลับกรุงเทพมหานครในเวลาประมาณ 10.30น.วันที่ 8 มีนาคมนี้ และทางคณะกรรมการมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตสนับสนุนรถบรรทุกศพ
ทั้งนี้ บรรยากาศในช่วงของการรับศพของหนุ่มสาวคู่นี้เต็มไปด้วยความเศร้าสลดของญาติพี่น้องทั้งสองฝ่ายรวมทั้ง แพทย์ พยาบาลเจ้าหน้าที่และประชาชนและนักท่องเที่ยวที่ทราบข่าวร้ายนี้ อย่างไรก็ดีบรรดาญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิต เดินทางมาที่จังหวัดภูเก็ตในช่วงเวลาที่ไล่เลี่ยกันและเดิมบิดาของนายอานนท์ ภวลักษณาวัติหารือกับญาตินางสาวอัฐฌิมาหรือหวาน อ่อนแก้ว ทำนองว่าอยากจะให้ลำเลียงศพ กลับไปกรุงเทพมหา นครพร้อมๆกัน แต่ พี่สาวฝ่ายหญิงคัดค้าน นอกจากนี้บิดาของนายอานนท์ ระบุด้วยว่า บุตรชายรู้จักและคบหากับฝ่ายหญิงมานานถึง 6-7 ปีแล้วและก่อนเสียชีวิต ได้เปิดร้ายขายของเบ็ดเตล็ด
พ.ต.ท.จงเสริม ปรีชา สารวัตรเวรสถานีตำรวจภูธรกะทู้เจ้าของคดีกล่าวว่าญาติของนางสาวอัฐฌิมา หรือหวาน อ่อนแก้ว แจ้งพนักงานสอบสวนตอนหนึ่งว่า ผู้ตายเคยพูดว่า จะฆ่าตัวตายมาเมื่อประมาณ 2 ปี ที่แล้ว สำหรับ จดหมาย 4 ฉบับที่เขียนจ่าหน้าถึงนายมณเฑียน อ่อนแก้ว บิดา , และ นางจุริยา อ่อนแก้ว มารดา,นางมนทิก อ่อนแก้ว พี่สาว นางแฉล้ม ศึกษายุทธ์ ยาย , ทางญาติยืนยันว่า เป็นลายมือของผู้ตายทั้งหมด สำหรับเนื้อหาในจดหมายนั้น เป็นจดหมายลาตาย มีข้อความระบุทำนองว่า เสียใจและต้องขอโทษอย่างมาก ที่ไม่ได้ลาทุกคนด้วยตนเองและ ไม่ได้ทดแทนบุญคุณ ยายและพ่อแม่และญาติพี่น้องคนอื่นๆ ทั้งนี้ เท่าที่สอบถาม เกี่ยวกับความรักของคนทั้งสองทราบว่าญาติทั้งสองฝ่ายไม่ได้กีดกันแต่อย่างใด อย่างไรก็ดีผู้ตายปัจจุบันว่างงานทั้งคู่แต่ญาติพี่น้องของผู้ตายทั้งคู่ไม่ได้ติดใจในความสูญเสียในครั้งนี้เพราะพยาน หลักฐานที่รวบรวมเอาไว้ทั้งหมดมีความชัดเจนว่าเป็นการฆ่าตัวตายไม่ใช่การฆาตกรรมแน่นอน ส่วนจดหมายฉบับที่ 5 เป็นลายมือของนายอานนท์ ภวลักษณาวัติ
ทางด้านพ.ต.อ.อารยะพันธุ์ พุกบัวขาว ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรกะทู้กล่าวว่า การกระทำของคนหนุ่มสาวคู่นี้ เข้าใจว่าเป็นการฆ่าตัวตายเพื่อบูชาความรัก เป็นความสมัครใจ เพราะกระโดดออกมาจากระเบียง ป่าตองทาวเวอร์ คอนโดมีเนียม พร้อมกัน รวมทั้งผู้ตายทั้งคู่เขียนจดหมายอำลา เอาไว้เรียบร้อย ในเรื่องนี้ที่หนุ่มสาว มาท่องเที่ยวและเข้าพักและตัดสินใจกระโดดตึก เป็นเรื่องที่สุดวิสัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจจะป้องกันไม่ให้เกิดโศกนาฏกรรมขึ้นมาได้ ในทางตรงกันข้ามหากมีเหตุทะเลาะเบาะแว้ง และมีผู้เห็นเหตุการณ์ แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไประงับเหตุ อาจจะสามารถช่วยได้ทัน และถือว่าเป็นภาพสะท้อนของสังคมไทยในปัจจุบันได้ส่วนหนึ่ง ในขณะเดียวกันทุกฝ่ายไม่อยากจะให้มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย เจ้าหน้าที่ตำรวจ ต้องขอแสดงความเสียใจสำหรับการเสียชีวิตของคนทั้งคู่ รวมทั้งพ่อแม่ ญาติพี่น้องทั้งสองฝ่ายที่เสียใจมากกว่าทุกฝ่าย สำหรับสาเหตุของการคิดสั้นและตัดสินใจฆ่าตัวตาย สันนิษฐานว่า ฝ่ายหญิง เกิดความน้อยเนื้อต่ำใจ เพราะพ่อแม่ผู้ปกครองหรือญาติพี่น้องอาจจะไม่เข้าใจคนทั้งคู่ประกอบกับเป็นความฝังใจกับปัญหาที่หมักหมมมานาน เมื่อถึงที่สุดจึงตัดสินใจร่วมกันแก้ไขปัญหาชีวิต โดยเตรียมตัวทุกอย่างให้พร้อมและตั้งใจกระโดดตึกฆ่าตัวตายที่หาดป่าตอง จังหวัดภูเก็ต
ข้อมูลจาก :: ชัยวุฒิ พวงสุวรรณ สวท. ภูเก็ต
---------------------------------------------------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็นทั่วไป ใช้คำสุภาพ