วันจันทร์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2556

คนร้ายบุกเจาะตู้เซฟห้างทองคำย่านหาดป่าตอง



คนร้ายบุกเข้าร้านทองคำเยาวราช 9 ต.กะทู้ จ.ภูเก็ต ยามดึก ตัดสายไฟกล้องวงปิด ขนอุปกรณ์เชื่อมเหล็กหวังเจาะตู้เซฟ แต่ไม่สำเร็จเพราะอุปกรณ์ตัดเหล็กแก๊สดันหมดกลางคัน จึงเก็บของหนีไปในที่สุด ด้านตำรวจเผยทรัพย์สินภายในร้านยังอยู่ครบ คาดคนร้ายมีไม่ต่ำกว่า 3 คน และมีความชำนาญ เร่งสั่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนค้นหาพยานหลักฐาน นำตัวมาดำเนินคดีเร็วที่สุด
      
       เมื่อเวลา 08.56 น. วันที่ 15 ก.ย.56 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กะทู้ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งจาก น.ส.นุชนภา เจษฎารักษ์ ซึ่งเป็นผู้ดูแลห้างทอง ทองคำเยาวราช 9 ว่า มีคนร้ายพยายามจะเจาะตู้เซฟห้างทอง ทองคำเยาวราช 9 เลขที่ 88 ถ.ไสน้ำเย็น ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ขอให้เดินทางไปตรวจสอบ หลังรับแจ้งจึงรายงายผู้บังคับบัญชา ก่อนรุดตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.อรุณ แกล้ววาที รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.อ.จิรภัทร โพธิ์ชนะพันธุ์ ผกก.สภ.กะทู้ พ.ต.ท.นิกร ชูทอง สวป.สภ.กะทู้ พ.ต.ท.สมศักดิ์ ทองเกลี้ยง สว.สส.สภ.กะทู้ เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ชุดสืบ สภ.กะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต รุดไปตรวจสอบเพื่อเก็บลายนิ้วมือแฝง
      
       ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้นครึ่ง ซึ่งเป็นห้างทอง ทองคำเยาวราช 9 เลขที่ 88 ถ.ไสน้ำเย็น ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต พบร่องรอยคนร้ายมากกว่า 3 คนขึ้นไปร่วมกันงัดแงะกระเบื้องหลังคาของร้านแล้วมีการปืนเข้าไปในร้าน จากนั้นขนอุปกรณ์เข้าไปมากมายเพื่อจะเจาะเซฟขโมยทองคำ แต่ไม่สำเร็จเนื่องจากระหว่างที่กำลังเปิดตู้เซฟแก๊สที่ใช้ตัดเหล็กเกิดหมด
      
       ด้าน น.ส.นุชนภา เจษฎารักษ์ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32/7 ซ.ลาดพร้าว 23 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นผู้ดูแลร้าน และเป็นพี่สาวของเจ้าของร้าน เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 14 ก.ย.56 ตนเองได้ปิดร้านตามปกติซึ่งที่ร้านไม่มีใครพักอยู่ภายในร้าน ตนจึงได้เดินทางกลับบ้านตามปกติ จากนั้นในเวลา 08.50 น. วันนี้ (15 ก.ย.) ตนเองได้เดินทางมาเปิดร้านตามปกติ ซึ่งประตูหน้าร้านได้ปิดตามปกติไม่มีร่องรอยการงัดแงะ แต่ได้กลิ่นเหม็นไหม้ จึงคิดว่าไฟไหม้ จากนั้นได้เปิดประตูเข้าไปห้องเก็บทองถึงกับตกใจ เนื่องจากพบร่องรอยการใช้อุปกรณ์ตัดเหล็กพยายามเจาะตู้เซฟ ตนจึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบในที่สุด อีกทั้งยังรู้สึกดีใจที่คนร้ายไม่สามารถนำทองคำไปได้ อย่างไรก็ตาม ก็แอบหวั่นใจเพราะทางร้านได้มีระบบการป้องกันอย่างรัดกุม แต่คนร้ายยังสามารถเข้าก่อเหตุได้
      
       ขณะที่ พ.ต.อ.จิรภัทร โพธิ์ชนะพันธุ์ ผกก.สภ.กะทู้ กล่าวว่า คนร้ายมีมากกว่า 3 คนขึ้นไป และรู้ความเคลื่อนไหวของร้านตลอดเวลา ซึ่งคนร้ายได้ถังแก๊สขนาดประมาณ 50 กิโลกรัม จำนวน 2 ถัง สายยางสำหรับเชื่อมเหล็ก จำนวน 1 เส้น ต่อเชื่อมเข้าด้วยกัน และอุปกรณ์อื่นๆ จำพวกช่าง เช่น ชะแลง ไขควง และอุปกรณ์อื่นๆ อีกหลายชิ้น โดยคนร้ายใช้อุปกรณ์ตัดเหล็กที่มีความร้อน ตัดเหล็กที่ประตูกรงเก็บตู้นิรภัยจนสามารถเปิดประตูกรงออกได้ จากนั้นพยายามตัดเหล็กประตูตู้นิรภัยที่มีอยู่ 3 ตู้ ทั้งนี้ คนร้ายพยายามตัดเพื่อเปิดเพียงตู้เดียว แต่ตัดไม่สำเร็จ จึงสันนิษฐานว่า แก๊สที่บรรจุในถังหมดเสียก่อน นอกจากนี้ ยังพบพฤติกรรมของคนร้ายได้ทำการตัดสายไฟบริเวณตู้มิเตอร์ไฟฟ้าที่ติดตั้งอยู่หน้าร้านก่อนก่อเหตุด้วย ทำให้กล้องวงจรปิดในร้านไม่สามารถบันทึกภาพภายในร้านขณะคนร้ายก่อเหตุได้
      
       พ.ต.อ.จิรภัทร กล่าวต่อไปอีกว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจสอบตู้นิรภัยทั้ง 3 ตู้อย่างละเอียดแร้ว จากนั้นจึงให้ น.ส.นุชนภา เจษฎารักษ์ ผู้ดูแลร้านได้เปิดตรวจสอบทองคำในตู้นิรภัย 2 ตู้ ที่ไม่มีร่องรอยการตัดเหล็ก และพบว่าทองคำยังอยู่ครบตามปกติ แต่ตู้นิรภัยที่ 3 ไม่สามารถตรวจสอบได้เนื่องจากกลไกของตู้ได้ล็อกอัตโนมัติแล้ว จึงไม่สามารถทราบได้ว่าทองคำยังอยู่ครบหรือเปล่า แต่คาดว่าคนร้ายไม่น่าจะได้ทองคำไปได้ เนื่องจากเปิดตู้นิรภัยไม่สำเร็จ พร้อมได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข้อมูล และหลักฐานให้อย่างครบถ้วน เพื่อที่จะหาตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็วที่สุด


ข้อมูลจาก.. ASTV Manager ภาคใต้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็นทั่วไป ใช้คำสุภาพ