วันอังคารที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2556

รวบ 2 ขาใหญ่คุมวินแท็กซี่ป้ายดำหน้าห้างดังภูเก็ต



รมว.ท่องเที่ยวฯ พร้อม ผบ.ตร.แถลงข่าวจับกุมสองขาใหญ่คุมวินแท็กซี่ป้ายดำหน้าห้างเซ็นทรัลเฟสติวัล ภูเก็ต เผยถูกนักท่องเที่ยวร้องเรียน 16 ประเทศ สร้างภาพลักษณ์ไม่ดีให้การท่องเที่ยวไทย
      
       เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 9 ก.ย.56  ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) นายสมศักย์ ภูริศรีศักดิ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วย พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร.และ พ.ต.อ.ชัชชม คล้ายคลึง รอง ผบก.ป.ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายป้อม สุขเกษม อายุ 42 ปี และนายเสริญ สุขเกษม อายุ 52 ปี คนคุมวินแท็กซี่ป้ายดำ บริเวณหน้าห้างเซ็นทรัลเฟสติวัล จ.ภูเก็ต โดยจับกุมนายป้อมได้ที่หน้าบ้านเลขที่ 130/42 ม.5 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ขณะที่ นายเสริญ จับกุมได้หน้าบ้านเลขที่ 57/209 ม.2 ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 8 ก.ย.ที่ผ่านมา
      
       พ.ต.อ.ชัชชม กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากได้รับการร้องเรียน ว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ซึ่งเป็นพี่น้องกัน มีพฤติกรรมเป็นมาเฟียเรียกเก็บค่าหัวคิว และทำร้ายร่างกายผู้ขับขี่รถแท็กซี่ที่ไม่จ่ายค่าหัวคิวให้กับกลุ่มผู้ต้องหา นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรมข่มขู่คุกคาม และทำร้ายร่างกายผู้ขับขี่รถแท็กซี่ที่ไม่ใช่รถจากวินที่ตนเองดูแลอยู่ที่เข้ามาส่งนักท่องเที่ยวที่ห้างเซ็นทรัลเฟสติวัล ซึ่งตรงนี้ได้สร้างความเดือดร้อนให้กับนักท่องเที่ยวด้วย
      
       จากการสอบสวนนายป้อมให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา แต่ยอมรับว่าตนเองดูแลวินรถแท็กซี่ ซึ่งเกิดจากการรวมตัวกันของผู้ขับขี่รถแท็กซี่จำนวน 170 คัน โดยทุกคนตกลงว่าจะจ่ายค่าดำเนินการในอัตรา 200 บาทต่อเดือน ซึ่งตนเตรียมที่จะไปยื่นขอจดทะเบียนเป็นสหกรณ์รถแท็กซี่สำหรับดูแลนักท่องเที่ยว แต่กลับมาถูกตำรวจจับกุมเสียก่อน
      
       เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น และข้อหาร่วมกันกรรโชกทรัพย์
      
       นายสมศักย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้รับการร้องเรียนจากทางสถานทูตกว่า 16 ประเทศ รวมทั้งจากทางโซเชียลเน็ตเวิร์กเกี่ยวกับปัญหารถแท็กซี่ป้ายดำตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ โดยเฉพาะ จ.ภูเก็ต ที่มีพฤติกรรมคุกคามข่มขู่ และทำร้ายร่างกายนักท่องเที่ยว ส่งผลต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศ ตนจึงได้หารือร่วมกับทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อกำหนดมาตรการต่างๆ ในการแก้ไขปัญหานี้่ ซึ่งทางกระทรวงพร้อมสนับสนุนทั้งกำลังคนและอุปกรณ์เครื่องมือ เข้ามาเสริมมาตรการในการช่วยเหลือดูแลนักท่องเที่ยว เพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้เพียงพอต่อการดูแลความปลอดภัยและสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว
      
       ด้าน พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ให้ความสำคัญกับการดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว โดยได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ ที่ปรึกษา (สบ10) ลงพื้นที่ดูแลตามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆ อย่างใกล้ชิด โดยได้มีการบูรณาการกำลังของตำรวจทุกหน่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจยินดีที่จะสนับสนุนการทำงานของกระทรวงการท่องเที่ยวฯ รวมทั้งระบบดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว อาทิ การจัดหาเฮลิคคอปเตอร์กู้ภัยทางน้ำ


ข้อมูลจาก.. ASTVผู้จัดการออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็นทั่วไป ใช้คำสุภาพ